มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน

You are here:

• ความเป็นมา / วัตถุประสงค์ / ลักษณะของการประกอบการ

อีเมล พิมพ์ PDF

 

มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน
 
 
ความเป็นมา
 
           พระธรรมวิสุทธิมงคลหรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนแห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี เป็นศิษย์รูปหนึ่งของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ ผู้เป็นบูรพาจารย์ใหญ่แห่งสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนามากที่สุดไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรม ทางโลก ได้แก่ การสงเคราะห์โรงพยาบาล และสถานที่ราชการอื่น ๆ นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ซึ่งประเทศไทยประสบภาวะเศรษฐกิจล่มสลาย ท่านได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำพี่น้องประชาชนชาวไทยจัดตั้งโครงการผ้าป่าช่วยชาติโดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยการรับบริจาคทองคำ เงินดอลลาร์สหรัฐ และเงินบาทไทย ได้ทองคำ ๑๑ ตัน และเงินดอลลาร์ ๑๐ ล้านดอลลาร์ ต่อมาท่านนำไปมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลคลังหลวงและขณะนี้ ท่านยังรับบริจาคทองคำเรื่อยมา โดยมีทองคำในส่วนนี้หลายร้อยกิโลกรัมที่รอการรวบรวมและนำส่งเข้าคลังหลวงต่อไป
           ส่วนทางด้านธรรมนั้น ท่านเป็นพระสงฆ์ที่แสดงพระธรรมเทศนามากที่สุด และพระธรรมเทศนาดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปมากที่สุด กว้างขวางที่สุด โดยในปัจจุบันทุกวันของตอนเช้าทั้งก่อนและหลังฉันภัตตาหาร ท่านจะเทศนาเผยแพร่ไปตามสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน ซึ่งมีเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ

 

สถานีวิทยุและโทรทัศน์เสียงธรรมเพื่อประชาชน เริ่มก่อตั้งและส่งกระจายเสียงเมื่อวันที่ ๑๗ เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ใช้ชื่อว่า สถานีวิทยุชุมชุนเสียงธรรมบ้านตาด โดยมีสถานที่ตั้งอยู่ที่ อาคารเอนกประสงค์ (หลังเก่า) ของโรงเรียนบ้านตาด ส่งกระจายเสียงคลื่นวิทยุในระบบ เอฟเอ็ม ความถี่ ๑๐๓.๒๕ เมกเฮิรตซ์
         ต่อมาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน อนุญาตให้ก่อตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนที่สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย ๓ เขตบางแค กรุงเทพฯเริ่มทดลองออกอากาศเมื่อวันที่ ๑๑ เดือนพฤษภาคม ๒๕๔๗ โดยเป็นสถานีแม่ข่ายส่งสัญญาณด้วยระบบอินเตอร์เน็ตไปยังสถานีเครือข่ายทั่วประเทศ
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๒ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ สถานีวิทยุชุมชนเสียงธรรมบ้านตาด ได้ย้ายมาอยู่ในสถานที่ปัจจุบัน เลขที่ ๓๐๙/๑ หมู่ ๑ ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีเนื้อที่ ๑๔ ไร่เศษ (เดิมเป็นที่ตั้งของวัดโพธิ์ศรีซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดโยธานิมิต จังหวัดอุดรธานี)โดยเพิ่มความสูงของเสาให้สูงขึ้น และ ขยายกำลังส่งให้แรงขึ้น เพื่อกระจายเสียงให้ทั่วจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยในระยะแรกรับในตอนกลางวันและส่งสัญญาณในเวลา ๒๒.๐๐ น. ระหว่างสถานีแม่ข่ายที่สวนแสงธรรมด้วยระบบLeased Lineและกระจายสัญญาณไปยังสถานีลูกข่ายทั่วประเทศตลอด ๒๔ ชั่วโมงด้วยระบบอินเตอร์เน็ต ระยะต่อมาจึงได้ย้ายสถานีแม่ข่ายมาที่ตำบลบ้านตาดเป็นการสมบูรณ์ และเปลี่ยนการส่งสัญญาณไปยังสถานีลูกข่ายทั่วประเทศด้วยระบบดาวเทียม
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณรับเป็นองค์อุปถัมภ์เครือข่ายวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน เมื่อวันที่ ๒๖ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ และทรงเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดแพรคลุมป้าย เมื่อวันที่   ๘ เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ (ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาสถานีฯ)
ต่อมาได้เริ่มแพร่ภาพสัญญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ด้วยดาวเทียมไทยคม ๒ ในระบบ ซีแบนด์ เมื่อวันที่ ๓๐ เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยใช้ชื่อว่า สถานีโทรทัศน์เสียงธรรมบ้านตาด (SBT. TV.)จึงเปลี่ยนการส่งสัญญาณเสียงของวิทยุเสียงธรรมจากสถานีแม่ข่าย วัดป่าบ้านตาดด้วยดาวเทียมไทยคม เป็นดาวเทียมไทยคม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ปัจจุบันสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนมีสถานีวิทยุในเครือข่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น ๑๑๗ สถานี โดยแยกเป็นภูมิภาค ดังนี้
ภาคเหนือ                           จำนวน        ๒๕      สถานี
   ภาคกลาง                                จำนวน         ๒๔      สถานี
   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ              จำนวน         ๔๗     สถานี
   ภาคตะวันออก                          จำนวน         ๑๑      สถานี
   ภาคใต้                                   จำนวน         ๑๐     สถานี
รวม                        จำนวน       ๑๑๗     สถานี
 
วัตถุประสงค์
           หากพิจารณาจากพระธรรมเทศนาขององค์หลวงตา และคำประกาศของสถานีแล้ว สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
           ๑. เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์
            ๒. เพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นธรรมะปฏิบัติ โดยการนำพระธรรมเทศนาของพระสงฆ์ผู้ทรงศีล ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ รู้แจ้งเห็นจริงในการปฏิบัติมาเผยแพร่ออกอากาศ
           ๓.   เพื่อส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนที่เป็นอุบาสกอุบาสิกาได้ปฏิบัติตามหลักธรรมะคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยการให้ทาน รักษาศีล และปฏิบัติภาวนา เป็นไปอย่างกว้างขวาง
           โดยสรุปวัตถุประสงค์ดังกล่าว ก็เพื่อสาธารณะประโยชน์ระดับชาติ ในด้านการศึกษาและพระพุทธศาสนานั่นเอง

 

ลักษณะของการประกอบการ
           ๑. ภาคประชาชนเป็นผู้ประกอบกิจการ สถานีวิทยุเสียงฯ และสถานีเครือข่าย ก่อตั้งขึ้นโดยศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัวทั้งฝ่ายพระสงฆ์และฆราวาส แล้วน้อมถวายแด่องค์หลวงตาเพื่อให้เป็นสมบัติของสงฆ์ ดังนั้นในการบริหารงานหรือการประกอบกิจการในระดับชาติหลวงตาได้แต่งตั้ง คณะกรรมการอำนวยการ โดยมีองค์หลวงตาเป็นองค์ประธานและพระสงฆ์อีกจำนวน ๙ รูป เป็นคณะกรรมการ เพื่อบริหารงาน ส่วนสถานีเครือข่ายในบางสถานีที่มีคณะกรรมการเป็นผู้บริหาร เช่น สถานีวิทยุเสียงธรรมฯ สกลนคร เป็นต้น
           ๒. ขอบเขตของการส่งกระจายเสียงและภาพ มีสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ บ้านตาดเป็นสถานีหลักและเป็นผู้ผลิตรายการทั้งหมด แล้วส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมไปยังสถานีเครือข่ายและผู้รับทั่วประเทศ

 

๓. เนื้อหาของรายการ  รายการวิทยุเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น โดยส่วนใหญ่เป็นพระธรรมเทศนาที่เป็นธรรมะปฏิบัติ ที่เรียกว่า การปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐาน
           ๔. ไม่แสวงหากำไรทางธุรกิจ และไม่มีการโฆษณาสินค้า
           ๕.  ทุน ทั้งทุนในการก่อตั้งและในการบริหารงานภายหลังจากก่อตั้งแล้ว เช่น ค่าไฟฟ้า หรือค่าบำรุงรักษา เป็นต้น ล้วนได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา ปัจจุบันองค์หลวงตาได้จัดตั้งกองทุนสถานีวิทยุเสียงธรรมฯ แล้ว พัฒนาขึ้นตามลำดับ ในเบื้องต้นสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน สวนแสงธรรม ทำหน้าที่ผลิตรายการส่งสัญญาณไปยังสถานีวิทยุเสียงธรรมบ้านตาดและสถานีเครือข่าย ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๔๘ ได้ย้ายการผลิตรายการมาที่สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อ ประชาชน บ้านตาด สำหรับการส่งสัญญาณถ่ายทอดรายการจากสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน บ้านตาดหรือสวนแสงธรรมไปยังสถานีวิทยุเครือข่ายตามจังหวัดต่าง ๆ นั้น ในระยะแรก ส่งสัญญาณผ่านระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง วิธีดังกล่าวนี้ มีข้อบกพร่อง คือสัญญาณอินเตอร์เน็ตจะหลุดบ่อย ต้องใช้บุคลากรดูแลตลอดเวลา
          ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๔๘ สถานีวิทยุเสียงธรรมฯ ทำสัญญาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมกับ บริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด เพื่อรับสัญญาณวิทยุจากสถานีบ้านตาด แล้วส่งไปยังสถานีเครือข่ายทั่วประเทศจำนวน ๒๔ สถานี เหตุที่เข้าร่วมเพียง ๒๔ สถานีนั้น เนื่องจากขณะทำสัญญาจำนวนสถานีเครือข่ายยังไม่มาก

 

สำหรับผู้ฟังรายการนั้นนอกจากฆราวาสแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ พระกัมมัฏฐาน ที่อยู่ตามวัดป่า ห่างไกลจากชุมชน บางพื้นที่ไม่สามารถรับฟังได้เนื่องจากคลื่นวิทยุที่ส่งออกไปยังไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ ดังนั้น สถานีวิทยุเสียงธรรมฯ บ้านตาด จึงได้พยายามปรับปรุง หรือพัฒนาระบบการส่งสัญญาณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเพื่อให้สามารถก่อตั้งสถานีวิทยุเครือข่ายเพิ่มขึ้นในท้องถิ่นที่ห่างไกลได้อย่างครอบคลุม  โดยเมื่อ เดือนกันยายน ๒๕๔๙ สถานีวิทยุเสียงธรรมฯ ได้ทำสัญญาเช่าช่องสัญญาณดาวเทียมไทยคม ๒ กับบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด ฉบับใหม่  ซึ่งสามารถส่งได้ทั้งสัญญาณเสียงวิทยุและภาพโทรทัศน์ และในวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๔๙ ได้เริ่มส่งสัญญาณเสียงวิทยุและภาพโทรทัศน์เสียงธรรมเพื่อประชาชน จึงได้เรียกได้ว่า เป็นทั้งกิจการสถานีวิทยุและโทรทัศน์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา สถานวิทยุเครือข่ายและผู้รับฟังวิทยุก็ไม่ถูกจำกัดในการส่งและรับสัญญาณอีกต่อไป กล่าวคอเมื่อสถานีเครือข่ายและ/หรือผู้รับวิทยุโทรทัศน์ติดตั้งจานดาวเทียมขึ้น ก็สามารถรับสัญญาณเสียงและภาพได้ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของประเทศไทยและในต่างประเทศยังสามารถรับสัญญาณได้ด้วย

องค์อุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๔๘ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ทรงรับสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน และเครือข่ายไว้ในพระอุปถัมภ์และเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ทรงเสด็จ เปิดแพรคลุมป้ายสถานีวิทยุเสียงธรรมฯบ้านตาด