มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน

You are here: หน้าหลัก ข่าวสารมูลนิธิเสียงธรรมฯ ผลงานวิชาการที่ กสทช. ปกปิด

ผลงานวิชาการที่ กสทช. ปกปิด

อีเมล พิมพ์ PDF

 

เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. เครือข่ายประชาชนสนับสนุนการเผยแผ่ธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชนประกอบด้วย สมาคม มูลนิธิ ชมรม องค์กรชุมชน กลุ่ม (มูลนิธิสายธารธรรม ในความอุปถัมภ์ของพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย),สมาคมจีนเตี้ยอันในประเทศไทย สาขาอุดรธานี, เครือข่ายองค์กรวิทยุภาคประชาชนแห่งชาติ, ชมรมเสียงแห่งธรรม, กลุ่มประชาชนทนไม่ไหว, ชมรมตระกูลโง้วอุดรธานี, ชมรมตระกูลจึง, สมาพันธ์วิทยุชุมชนเชิงประเด็นแห่งชาติ, ชมรมตระกูลโล้วชมรมตระกูลลิ้มอุดรธานี, ชมรมผู้สูงอายุในจังหวัดอุดรธานี, กลุ่มคนเทียนแห่งธรรม, ชมรมปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ, กลุ่มคนรักเวสป้า, ชมรมถ่ายภาพ, มูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน, มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี, ชมรมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดอุดรธานี, ผู้ใหญ่บ้าน บ.ตาด หมู่ ๑ ต.บ้านตาด, ผู้ใหญ่บ้าน บ.ตาด หมู่ ๑๔ ต.บ้านตาด, ผู้ใหญ่บ้าน บ.กกสะทอน หมู่ ๕ ต.บ้านตาด, ผู้ใหญ่บ้าน บ.สุขสมบูรณ์ หมู่ ๑๐ ต.บ้านตาด และผู้ใหญ่บ้าน บ.โนนเดื่อ หมู่ ๙ ต.บ้านตาด เป็นต้น) และประชาชนได้ร่วมกันยื่นหนังสือต่อ ผอ.กสทช.เขต ๘ อุดรธานี เพื่อเรียกร้องให้ กสทช. อย่าปิดบังผลการศึกษา ความเป็นไปได้ในการอนุญาตวิทยุชุมชนเชิงประเด็น ซึ่งจัดทำโดย ม.ธรรมศาสตร์ร่วมกับสำนักงาน กสทช.

ผลการศึกษาดังกล่าวเปรียบเป็น แบบแปลนของวิทยุภาคประชาชน” ซึ่งเป็นเจตนารมณ์สูงสุดของการปฏิรูปสื่อที่แท้จริงที่ กสทช. ต้องทำให้เกิดขึ้นจริงด้วยการบังคับใช้ประกาศหลักเกณฑ์อนุญาตบริการชุมชนที่ครอบคลุมเชิงประเด็นให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงฯ ฉบับที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๖)

การที่ กสทช. จงใจปิดบังซ่อนเร้นผลการศึกษานี้ยาวนานถึง ๒ ปี จึงเป็นการฝ่าฝืน พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๕๙ (๕) ที่บัญญัติว่า ให้สำนักงาน กสทช.เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กสทช. และสำนักงาน กสทช.ให้ประชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือวิธีการอื่นที่เห็นสมควร โดยอย่างน้อยต้องเปิดเผยข้อมูล (๑) … (๔), (๕) ผลการศึกษาวิจัยและผลงานอื่นๆ ที่ว่าจ้างให้หน่วยงานภายนอกดำเนินการ” เป็นความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นการปิดกั้นกระบวนการปฏิรูปสื่อซึ่งขัดแย้งต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญอีกด้วย

เครือข่ายประชาชนดังกล่าวได้ยื่นคำขาดต่อ กสทช. ผ่าน ผอ.สำนักงานเขต ๘ อุดรธานีว่า หาก กสทช.ยังไม่นำผลการศึกษาออกเผยแพร่ภายในกำหนดเวลา ๑๕ วัน เครือข่ายประชาชนฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เพราะให้โอกาสมายาวนานแล้ว

 

                                                                         เอกสารวิชาการฉบับที่ กสทช. ปกปิด จำนวน ๔๐๐ หน้า 

                                           -------------------------------------------------------------------------------

 

อุดรธานี-เครือข่ายประชาชนสนับสนุนธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชน เรียกร้อง กสทช. เขต 8 อุดรธานี นำรายงานการศึกษา โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงฯ ออกเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆภายใน 15 วัน ลั่นหากไม่นำออกมาเผยแพร่จะดำเนินความผิดกสทช.ตาม พรบ.

วันนี้ (3มิ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ เขต 8 (อุดรธานี)ถนนวัฒนา ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เครือข่ายประชาชนสนับสนุนการเผยแพร่ธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชน กว่า 200 คน นำโดย นางสุภา คุณธีระ ประธานเครือข่ายฯ ได้เดินทางมายื่นหนังสือ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ กสทช. อย่างปิดบัง โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่มั่งเน้นในเชิงประเด็นภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 ที่ จัดทำโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับนายฉลาด อาสายุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช.เขต 8 อุดรธานี


ทั้งนี้ข้อความในหนังสือมีข้อความระบุว่า ข้าพเจ้าในนามเครือข่ายประชาชนสนับสนุนการเผยแพร่ธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชนซึ่งประกอบด้วยสมาคม มูลนิธิ ชมรม องค์กรชุมชน กลุ่มและประชาชน ซึ่งได้ติดตามเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับสื่อวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนโดยเฉพาะกรณีวิทยุชุมชนเชิงประเด็นหรือเชิงความสนใจ (
Issue-based Community Radio or Community Radio of Interest) มาโดยตลอด นับตั้งแต่การติดตามรับฟังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ...... ณ อาคารรัฐสภา ทั้งจากฝ่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ตลอดจนการทำประชาพิจารณ์ 4 ภาค การประชุมโฟกัสกรุ๊ปเกี่ยวกับ วิทยุชุมชนเชิงประเด็น รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในงานศึกษาวิจัยเรื่อง โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่มุ่งเน้นในเชิงประเด็น ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
นอกจากนั้นเครือข่ายประชาชนฯ ยังได้เฝ้าติดตามการทำงานของคณะกรรมการ กทช. (คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) จนมาเป็นคณะกรรมการ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และทราบมานานแล้วว่าผลการศึกษาตามโครงการดังกล่าวได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์มานานแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554 เป็นต้นมา จึงมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งที่จนกระทั่งบัดนี้ กสทช. ยังมิได้เผยแพร่ผลการศึกษา 
โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่มุ่งเน้นในเชิงประเด็นภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551” ให้สาธารณชนได้รับทราบแต่อย่างใด ซึ่งผลงานวิจัยชิ้นนี้ ได้ถูกจัดทำมาโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และคุณภาพ มีข้อมูลความรู้ที่ละเอียดรอบด้านมีคุณค่าและมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการเหนือกว่าผลการศึกษาใดๆ ประการสำคัญ เป็นการดำเนินการตามมติ กทช. ครั้งที่ 43/2552 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2552 โดยได้รับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงาน กสทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 39/2553 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณ


แผ่นดินที่มาจากเงินภาษีประชาชน ประการสำคัญยิ่งกว่านั้น ผลงานชิ้นนี้ได้บ่งบอกถึงคุณลักษณะของวิทยุภาคประชาชนหรือวิทยุชุมชนเชิงประเด็นที่ครอบคลุมละเอียดลออกว่าผลการศึกษาใดๆ ของประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งเปรียบเป็น 
แบบแปลนแผนผังของวิทยุภาคประชาชน อันเป็นเจตนารมณ์สูงสุดของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง ดังนั้น ประกาศ มติ คำสั่ง หรือกฎระเบียบใดๆ ที่ออกจาก กสทช. อันเกี่ยวกับวิทยุภาคประชาชนจึงต้องไม่ขัดแย้งหรือไม่ข้ามเกินผลการศึกษาฉบับนี้โดยเด็ดขาด และหาก กสทช. ยังจงใจปิดบังซ่อนเร้นผลการศึกษาดังกล่าวมาถึง 2 ปี ด้วยแล้วโดยไม่มีวันจะนำออกเผยแพร่แต่อย่างใดเลยนั้น เครือข่ายประชาชนฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า กสทช. กำลังทำผิดกฎหมายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากจะเรียกว่าปิดกั้นกระบวนการปฏิรูปสื่ออย่างรุนแรงก็ไม่ผิดไป

TnewsOnline
03-06-13 18:51

 

                                           --------------------------------------------------------------------------

ข่าวผู้จัดการออนไลน์

ASTVผู้จัดการออนไลน์

มิถุนายน 2556 14:32 น.

 

เครือข่ายสนับสนุนธรรมะภาค ปชช.จี้ กสทช.” เปิดผลการศึกษาการออกใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง

 

อุดรธานี - เครือข่ายประชาชนสนับสนุนธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชนเรียกร้อง กสทช.” เขต อุดรธานีเผยแพร่รายงานการศึกษา โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงผ่านสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ ภายใน 15 วัน ลั่นหากไม่ทำจะดำเนินการเอาผิด กสทช.ตามกฎหมาย

วันนี้ (มิ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เขต 8 (อุดรธานี) ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เครือข่ายประชาชนสนับสนุนการเผยแพร่ธรรมะผ่านสื่อภาคประชาชนกว่า 200 คน นำโดยนางสุภา คุณธีระ ประธานเครือข่าย มายื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ กสทช. อย่าปิดบังโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่มุ่งเน้นในเชิงประเด็น ภายใต้ พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อนายฉลาด อาสายุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช.เขต อุดรธานี

ทั้งนี้ หนังสือระบุว่า ในนามเครือข่ายประชาชน ซึ่งประกอบด้วยสมาคม มูลนิธิ ชมรม องค์กรชุมชน กลุ่ม และประชาชน ซึ่งได้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับสื่อวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชน โดยเฉพาะกรณีวิทยุชุมชนเชิงประเด็นหรือเชิงความสนใจ (Issue-based Community Radio or Community Radio of Interest) มาโดยตลอด นับตั้งแต่การติดตามรับฟังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. ... ณ อาคารรัฐสภา ทั้งจากฝ่ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา

ตลอดจนการทำประชาพิจารณ์ ภาค การประชุมโฟกัสกรุ๊ปเกี่ยวกับ วิทยุชุมชนเชิงประเด็น” รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในงานศึกษาวิจัยเรื่อง “โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงที่มุ่งเน้นในเชิงประเด็น ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551”

นอกจากนั้น เครือข่ายประชาชนยังได้เฝ้าติดตามการทำงานของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จนมาเป็น กสทช.อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และทราบมานานแล้วว่าผลการศึกษาตามโครงการดังกล่าวได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์มานานแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2554

จึงมีความวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่งที่จนกระทั่งบัดนี้ กสทช.ยังมิได้เผยแพร่ผลการศึกษาโครงการดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบแต่อย่างใด

ซึ่งผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้ถูกจัดทำมาโดยนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และคุณภาพ มีข้อมูลความรู้ที่ละเอียดรอบด้าน มีคุณค่า และมีความน่าเชื่อถือทางวิชาการเหนือกว่าผลการศึกษาใดๆ ประการสำคัญ เป็นการดำเนินการตามมติ กทช. ครั้งที่ 43/2552 เมื่อวันที่ ธันวาคม 2552 โดยได้รับจัดสรรงบประมาณจากสำนักงาน กสทช. ตามมติ กทช. ครั้งที่ 39/2553 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากเงินภาษีประชาชน

ประการสำคัญยิ่งกว่านั้น ผลงานชิ้นนี้ได้บ่งบอกถึงคุณลักษณะของวิทยุภาคประชาชน หรือวิทยุชุมชนเชิงประเด็นที่ครอบคลุมละเอียดกว่าผลการศึกษาใดๆ ของประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งเปรียบเป็น แบบแปลนแผนผังของวิทยุภาคประชาชน” อันเป็นเจตนารมณ์สูงสุดของการปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง

ดังนั้น ประกาศ มติ คำสั่ง หรือกฎระเบียบใดๆ ที่ออกจาก กสทช.อันเกี่ยวกับวิทยุภาคประชาชน จึงต้องไม่ขัดแย้งหรือไม่ข้ามเกินผลการศึกษาฉบับนี้โดยเด็ดขาด และหาก กสทช.ยังจงใจปิดบังซ่อนเร้นผลการศึกษาดังกล่าวมาถึง ปีด้วยแล้ว เครือข่ายประชาชนพิจารณาแล้วเห็นว่า กสทช.กำลังทำผิดกฎหมาย ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากจะเรียกว่าปิดกั้นกระบวนการปฏิรูปสื่ออย่างรุนแรงก็ไม่ผิด

เครือข่ายประชาชนจึงขอเรียกร้องให้ กสทช.เผยแพร่ผลการศึกษาทางเว็บไซต์ของ กสทช.โดยเร็วภายในระยะเวลา 15 วันนับจากวันที่ยื่นหนังสือฉบับนี้ ทั้งนี้ เนื่องจากเครือข่ายประชาชนได้ให้เวลาแก่ กสทช.ยาวนานพอแล้ว นอกจากนี้ ตัวชี้วัดข้อ ตามแผนแม่บทกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ฉบับที่ ก็กำหนดไว้ด้วยว่า กสทช.ต้องออกหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ และการส่งเสริมการใช้คลื่นความถี่ในกิจการบริการชุมชนด้านกิจการกระจายเสียงในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ในแต่ละพื้นที่ของการอนุญาตภายใน ปี

กล่าวคือ กสทช.ต้องออกหลักเกณฑ์วิทยุบริการชุมชนที่ครอบคลุมเชิงประเด็นให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2556 นี้เท่านั้น เครือข่ายประชาชนซึ่งรอการเผยแพร่ผลการศึกษาฉบับนี้มายาวนาน ปีแล้วจึงไม่อาจรอคอยอีกต่อไปได้

ดังนั้น หาก กสทช.ยังไม่นำผลการศึกษาออกเผยแพร่ภายในกำหนดเวลา 15 วัน เครือข่ายประชาชนมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย โทษฐานที่ กสทช.จงใจฝ่าฝืน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนานคม พ.ศ. 2553 มาตรา 59(5) ซึ่งบัญญัติว่า ให้สำนักงาน กสทช.เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กสทช. และสำนักงาน กสทช. ให้ประชาชนทราบทางระบบเครือข่ายสารสนเทศ หรือวิธีการอื่นที่เห็นสมควร โดยอย่างน้อยต้องเปิดเผยข้อมูลดังต่อไปนี้ (5) ผลการศึกษาวิจัยและผลงานอื่นๆ ที่ว่าจ้างให้หน่วยงานภายนอกดำเนินการ

ด้านนายฉลาด อาสายุทธ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช.เขต อุดรธานี กล่าวภายหลังจากการรับหนังสือว่า ขอให้ทุกคนที่มาในวันนี้สบายใจได้ ตนจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ระยะเวลาของคำตอบนั้นต้องขึ้นกับผู้บริหาร ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการปิดสถานีวิทยุเสียงธรรม 103.25 นั้น ตนยืนยันไม่มีใครจะมาปิดได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย